สิ่งที่จะบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังเหล่านี้เป้นเพียงเรื่องราวประสบการณ์ส่วนตัว
กับการจินตาการในบ้างอย่างที่ได้เกิดขึ้น
ซึ่งดูแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่เราผ่านพบมาและเคยต้องหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ ถ้าเราจะพูดกันถึงเตียงไม้เด็กแล้วล่ะ
ผู้ที่เป็นทั้งบิดามารดาหลายท่านหรือผู้ดูแลลูกหลานอีกมากมาย ก็คงที่ต้องนึกสงสัยกันอย่างแน่ๆเลยครับว่าเตียงที่หากันอยู่นี้ต้องใช้ไม้แบบไหนถึงจะเลิศ
นี้ล่ะครับข้อสงสัยใหญ่มากเลยก็ว่าได้เพราะมันคือวัสดุหลักนั้นเอง แต่มาที่ความคิดส่วนใหญ่แล้วเราไม่รู้หลอกว่าไม้ที่ทำตัวเตียงเด็กจริงๆแล้วเป้นแบบไหนกันหลอกครับ
ทำให้บิดามารดาบ้างรายก็บอกได้ว่าไม้ไม่ต้องอะไรมากหลอกขอแค่ดูสวยงามและเข้มแข็งก็พอ
ใช้ครับที่จริงแล้วถ้าเห็นกันแค่ภายนอกนี้เราก็สาแก่ใจแล้วล่ะครับแต่ปัจจัยสำคัญไปมากกว่าตรงนั้นแล้วก็คือลูกของเรานั้นเองที่จะเป็นลูกค้าอย่างจริง
แต่คุณพ่อคุณแม่ เพียงนั้นที่เป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกที่เรารักมากที่สุด
โดยเหตุนั้นเราก็ควรหันมาเรียนชนิดของไม้สักหน่อยก็ยังดีน่ะอันดับแรก
ในการสังเกตุเตียงเด็กเราควรถามเจ้าของคนขายก่อนว่าเตียงไม้เด็กรุ่นนี้เนืองเด็กไม้ฤๅน่ะครับ เตียงเด็กไม้เนื้ออ่อนทำผิวเรียบได้ดีและมีความยืดยุ่นที่ดี
และมีความหนักเบาที่เบาและเหมาะกับการทำเครื่องเรือนอย่างเตียงเด็กน่ะครับ ส่วนไม้เนื้อแข็ง
จริงแล้วไม่แบบนำมาทำเฟอร์นิเจอร์อย่างเตียงเด็กสักเท่าไรน่ะครับเพราะด้วยลายไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไร
แต่เป็นไม้ที่มีสัณฐานโครงสร้างของไม้เนื้อแข็งมีความซับซ้อนซับซ้อนกว่าไม้เนื้ออ่อน
มากมายสิบชนิด และลักษณะเบี่ยงเบนระหว่างไม้เนื้อแข็งด้วยกันเองมาก คุณสมบัติของไม้เนื้อแข็งมีความแตกต่างระหว่างพวกไม้เนื้อกระด้างด้วยกันทั้งในด้านความแข็งแรงของการรับน้ำและความแข็งของเนื้อไม้อย่างกว้างขวาง

ความเป็นจริงของข้อแตกต่างของไม้เนื้ออ่อนและไม้เนื้อแข็งทางวิชาการที่ได้กล่าวกันมาแล้ว
เป็นคำอธิบายศัพท์ที่เราใช้กันทุกประเทศในโลก ฉะนั้นที่จริงที่ปรากฏนี้ว่าไม้เนื้ออ่อนบางชนิด
(ไม้เนื้ออ่อน) แข็งกว่าไม้เนื้อแข็งบางชนิด
(ไม้เนื้อแข็ง) จึงทำให้เรานิยมนำชนิดของไม้เนื้ออ่อนมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างเตียงเด็กโดยเตียงที่ทำขึ้นมาก็จะทำให้ได้เตียงที่มีความต้องการได้ตรงตามคุณภาพที่เราเลือกนี้เองนี้เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น