ไฉนเด็กเล็กนอนหลับในเตียงเด็กต้องตื่นนอนขึ้นมาในระยะเวลาวิกาล

มันสามารถเป็นของธรรมดามากเกี่ยวกับเด็กที่นอนอาศัยในเตียงเด็กแล้วตื่นนอนขึ้นมาเวลากลางกลางดึก ก็จะเริ่มต้นมีคำถามกับคุณพ่อคุณแม่หลากหลายๆท่านไม่ว่าจะคือคำถามในการหลับของตัวคุณเองหรือกับลูกของเราเองที่ตื่นขึ้นมาทำอย่างไร โดยทั้งแจ้งสาเหตุและไม่รู้เรื่องสาเหตุก็ได้ หรือตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนั้นในช่วงเวลาตอนดึกดื่นๆ

  สิ่งแรกอาจปรากฏจากเจ้าตัวน้อยของเราแต่ล่ะท่านก็จะมีต้นแบบท่าทีในการนอนที่แตกต่างกัน ว่ากันว่าการไปนอนที่ผิดแปลกฉีกแนวกันนี้จะเป็นเหตุให้ได้ความกระทบกระเทือนจากสิ่งหลายสิ่งหลายๆอย่าง ที่อยู่ประชิดติดกันกับตัวของลูกน้อยคุณเอง จากการที่ลูกหลับอยู่บนเตียงเด็กแล้วสดุ้งตื่นขึ้นก็ด้วยเหตุว่าเกิดจากเบาะนอนที่ใช้นอนก็ได้ บางที่เตียงนอนเด็กกับเบาะนอนไม่เขารูปทรงกันก็มีผลทำเอาตัวเบาะที่ทำเอาเกิดกรณีลำคราญกับเด็กรวมทั้งการเจ็บป่วยสิ่งใดสิ่งหนึ่งขณะช่วงที่เขาพักผ่อนจึงทำให้ตัวยน้อยของแต่ล่ะท่านตื่นขึ้นมาโดยไม่ทราบเหตุผลก็ได้แต่นี้อาจเป็นปัจจัยที่ไม่ค่อยมีพ่อแม่ท่านใดคาดการณ์มาก่อนเป็นแน่นอน ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเหตุอาจทำเอาเรารู้สาเหตุและพินิจกันได้นั้นก็อาจจะเกิดสาเหตุมาจาก มีสิ่งมีชีวิตจำพวกมดตัวแมลงมารบกวนเขาก็ได้ และเป็นสิ่งที่ต้องควรจงระวังมากที่สุด เพราะบางคราวเราอาจให้นมหรืออาหารการกินบางอย่างบนเตียงเด็กอ่อนแล้วประกอบด้วยเศษอาหารหล่นลงที่เตียงนอนเด็กด้วยก็จะทำเอามีมดแมลงมาเยื่อนโดยไม่รู้สึกตัวก้ได้ทั้งที่เราหลายๆท่านก็ดูแลเป็นอย่างดีแล้ว นี้ก็เป็นต้นเหตุชนิดหนึ่งที่พบเจอได้และให้ดีก็ควรตริตรองสำรวจก่อนพาลูกลงนอนในเตียงเด็กเสมอก่อนทุกครั้ง แต่ก็ยังมีอีกตัวการที่ทำให้ลูกเราตื่นกลางดึกๆได้อีกก็คือ อาการปวดท้อง ไม่เบาเนื้อเบาตัว แม้กระทั้งอาการโหย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราคาดเดาอยากหน่อยว่าเด็กของเราตื่นมาเพราะต้องการกระไรให้คุณบิดามารดาทั้งหลายทำอย่างไรให้ ซึ่งตัวของเด็กแรกเกิดเองก็ไม่สามารถพูดออกมาได้หรือแสดงอากัปกิริยาที่ชัดเจน ซึ่งไม่เหมือนเหตุการณ์ฉี่กับอึที่สามารถรู้ถึงสภาพท่าทางหรือส่งกลิ่นไอบอกเราได้

 จะว่ากันไม่ยุ่งยากก็คือการที่คุณลูกๆของเราตื่นขึ้นมากลางดึกนั้นเหตุมีมากมายหลายประเภท แต่ที่สำคัญคือบิดามารดาต้องควรรีบลุกมามุ่งดูแลเขาอย่ามั่วแต่นอนแล้วยื่นให้ตัวเด็กต้องเผิชญกับโจทย์นั้นๆคนเดียวเพียงลำพังในเตียงเด็ก แต่ก็คงไม่มีพ่อแม่คนใดใช่ไม่ครับที่ไม่ห่วงบุตรหวังว่านี้คงเป็นข้อให้คิดกันนิดๆ หน่อยๆน่ะขอรับกระผม